"มิตติ ติยะไพรัช" ประธานที่ปรึกษา "ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด" ออกมาชี้ชัดว่า "ทีมชาติไทย" จบสกอร์ไม่คม พร้อมเผยสิ่งที่ "สปป.ลาว" ทำได้ดีกว่าในเกมนี้
วันที่ 14 ก.ค. 65 "บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษา "กว่างโซ้งมหาภัย" ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก ออกมาชี้ชัดว่า "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ภายใต้การนำทีม ซัลบาดอร์ บาเลโร่ การ์เซีย หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวสเปน ว่าจบสกอร์ไม่คม พร้อมเผยสิ่งที่ สปป.ลาว ทำได้ดีกว่าในเกมนี้ด้วยสกอร์ 2-0 ในศึก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบรองชนะเลิศ และ เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ส่วน "ช้างศึก" ทีมชาติไทย หล่นไปชิงอันดับที่ 3
ล่าสุด "บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ออกมากล่าวว่า "ความพ่ายแพ้จะทำให้เราแข็งแกร่ง ผมขอเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ ชุด 19 ปี ทีมชาติไทยที่ทุกคนมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการแข่งขันในเมื่อคืนวานที่ผ่านมา เกมเมื่อคืนเราเล่นได้เหนือกว่าลาวทุกอย่าง แต่สิ่งที่เรายังขาดคือการจบสกอร์ที่เด็ดขาด และผู้เล่นของลาวมีสมาธิกับเกมมากกว่าจริงๆ แล้วพอลาวได้ลูกที่สองจากจังหวะสวนกลับที่เราควรจะต้องตัดเกมให้ทัน ทั้งๆ ที่มีถึง 2 จังหวะที่จะทำได้ ก็ทำให้ผลการแข่งขันเข้าทางของลาวในทันที"
"สิ่งที่เห็นจากเกมเมื่อวานคือนักกีฬาของลาวเองก็มีทักษะที่ดีถึงแม้ไม่ใช่ทุกคน แต่ทีมชาติลาวนั้นเล่นได้หนักและดุดันตลอดทั้งเกม โดยเฉพาะจังหวะตัดฟาวล์สำคัญๆ ที่ทำให้ทีมไทยเราไม่สามารถเล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง ตามสไตล์บอลแบบสเปนแท้ๆ ที่โค้ชเราพยายามฝึกฝนให้กับชุดนี้มาอย่างยาวนานก็ยินดีกับทีมชาติลาว และขอให้สามารถเป็นแชมป์รายการนี้ให้ได้ในนัดที่จะพบกับมาเลเซียให้ได้ครับ"
"ทีนี้มาพูดถึงภาพรวมของทัวร์นาเมนต์นี้ที่ผมได้ติดตามและมีโอกาสดูเกมของหลายๆ ชาติมา ทำให้เริ่มเห็นได้ว่ามาตรฐานของฟุตบอลในแต่ละชาติ เริ่มที่จะพัฒนาและใกล้เคียงกับเรามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ฟิลิปปินส์ ซึ่งในบรรดาทีมที่ผมสะดุดตา และคิดว่าเล่นได้สูสีมากๆ กับไทย คือ ชาติฟิลิปปินส์ การต่อบอล ความเข้าใจเกม ฟิลิปปินส์ไม่ต่างจากเด็กไทยเราเลย แต่แค่โชคที่เรามีดีกว่าเขาเท่านั้น เราควรต้องทำอย่างไรเมื่อชาติอื่นๆ เริ่มตามเราได้ทัน?"
"2-3 ปีโครงสร้างของฟุตบอลไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งถ้าลีกเยาวชนของเรามีเตะอย่างต่อเนื่อง เด็กๆ ชุดนี้ก็จะมีเกมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราที่มีต่อทีมในชาติอาเซียนอยู่แล้วการสร้างศูนย์กลาง หรือคณะทำงานที่รับผิดชอบในการผลิตโค้ชและกำกับดูแลมาตรฐานของทัวร์นาเมนต์ มาตรฐานอคาเดมี่ ในภาคต่างๆ การวางมาตรฐาน วางกติกา วางขนาดของสนามและประตูให้เหมาะสมกับเด็กๆ ตามช่วงอายุ"
"การเก็บสถิติพื้นฐานของนักเตะในแต่ละทัวร์นาเมนต์แต่ละภาค สามารถเริ่มต้นสร้างทีมงานของสมาคมเพื่อเป็นพื้นฐานในการเก็บจำนวนประชากรนักฟุตบอลให้เป็นหลักเป็นฐานและรูปธรรมเสียที เพื่อคำนวณและวางแผนแนะแนวสร้างอาชีพทางเลือกให้กับนักเตะที่อายุเพิ่มขึ้นให้สามารถทำงานได้ถูกต้องกับสิ่งที่ตัวเองถนัด แต่หลายๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับฟุตบอลไทยในขณะนี้อาจไม่ได้ใช้งบประมาณไปในทิศทางที่ตรงจุด งาน PR อาจใช้งบประมาณสูงเกินความจำเป็นเกินกว่าจะให้ความสำคัญกับฐานรากที่สำคัญของฟุตบอลไทยอย่างเด็กๆ และบุคลากร"
"วันนี้ประเทศเรามีนักกีฬาเก่งๆ เต็มไปหมด แต่เราต้องรีบสร้างคนและมาตรฐานของเราไม่ให้ชาติในอาเซียนตามทันและรีบวิ่งสปีดเต็มกำลังให้ทัน 4 ชาติ Top 4 ของเอเชียอย่างเกาหลี, ญี่ปุ่น, อิหร่าน และออสเตรเลียให้ได้ ผมขอเป็นกำลังใจให้เด็กๆ และทีมงานของทีมชุดนี้ได้พัฒนาจากข้อผิดพลาดในวันนี้ สู่ความสำเร็จในอนาคตครับ"
สำหรับ สปป.ลาว รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ภายใต้การนำทีม มิชาเอล ไวส์ กุนซือชาวเยอรมัน มีโปรแกรมลงสนามพบกับ ทีมชาติมาเลเซีย ในศึก ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รอบชิงชนะเลิศ วันศุกร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ 20.00 น. ส่วน ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับ ทีมชาติเวียดนาม ในนัดชิงชนะเลิศ อันดับที่ 3 วันเดียวกันแต่ฟาดแข้งก่อนในเวลา 15.30 น.