"มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา" ร่วมยินดีกับความสำเร็จ ของสอยคิวทีมชาติไทย วัย 52 ปี " ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" ที่โชว์ฝีมือลายคราม คว้า 1 เหรียญทอง ในกีฬาซีเกมส์ที่เวียดนาม โดยอดีตสอยคิวแรงกิ้งอันดับ 3 ของโลก ได้รับการแต่งตั้งจากมูลนิธิฯให้เป็น "แบรนด์แอมบาสเดอร์"คนแรกของมูลนิธิ
ที่สำนักงานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ รศ.ดร.วีระเชษฐ์ ขันเงิน รองประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ฝ่ายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ,ภานพ ใจเกื้อ รองเลขานุการมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา และ พ.ต.บรรจง เนติสารยาภากร กรรมการมูลนิธิ ได้มีพิธีแต่งตั้งให้ วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" นักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติไทย ดำรงตำแหน่ง ฑูตขององค์กร หรือ "แบรนด์แอมบาสเดอร์" ถือเป็นผู้เข้ารับตำแหน่งดังกล่าว จาก "มูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา" เป็นคนแรก
วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" สร้างผลงานเหรียญทองแรก ในการทำหน้าที่ให้กับทีมชาติไทยซึ่งลงแข่งมาหลายสมัย โดยวัฒนา ภู่โอบอ้อม ทำผลงานเหรียญทอง จากกีฬาสนุกเกอร์ ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 31 "ซีเกมส์2021" ที่ประเทศเวียดนาม
ความสำเร็จในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ ของ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นำชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ มาให้กับคนไทยทั้งประเทศ
การรับตำแหน่ง"แบรนด์แอมบาสเดอร์" คนแรกให้กับมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ของ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" จอมสอยคิว อดีตมือ 3 ของโลกวัย 52 ปี ไม่ได้พิจารณา จากความสำเร็จเพียงผลงานคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ล่าสุด จากประเทศเวียดนามเท่านั้น แต่พิจารณาจากการสะสมผลงานการแข่งขันในกีฬาสนุกเกอร์มาตลอดกว่า 30 ปี ของการเป็นนักสนุกเกอร์อาชีพ ที่สร้างผลงานคว้าแชมป์และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาโดยตลอด อีกทั้งเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นหลัง ให้ก้าวสู่ความสำเร็จในการเป็นนักกีฬาอาชีพ
นอกจากนี้ยังใช้เวลาว่างจากการแข่งขันร่วมกับกลุ่มเพื่อนบำเพ็ญจิตสาธารณะช่วยเหลือเด็กกำพร้าและชุมชนที่ได้รับความลำบากมาอย่างยาวนาน ด้วยคุณความดีดังกล่าว วัฒนา ภู่โอบอ้อม จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็น"แบรนด์แอมบาสเดอร์"คนแรกของมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬาอย่างสมเกียรติ ซึ่งการมอบตำแหน่งสร้างความตื้นตันใจ และประทับใจให้กับ
"ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" และทางมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา จะใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ ในการสรรหาหานักกีฬาที่มีความโดดเด่นทางการกีฬา และสร้างคุณความดีให้กับประเทศชาติและสังคมไทย มาเป็นฑูตขององค์กร หรือ แบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ในโอกาสต่อไป
